พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ (Engineered Wood Flooring)

พื้นไม้เอ็นจิเนียร์มีผิวหน้าเป็นไม้แท้ แต่โครงสร้างข้างในทำจากหลายชั้น ทำให้แข็งแรงกว่าไม้ธรรมดา ผิวสัมผัสเหมือนไม้แท้ แต่ไม่งอง่าย เหมาะกับบ้านและคอนโด โดยเฉพาะอากาศร้อนชื้นแบบเมืองไทย

พื้นไม้เอ็นจิเนียร์คืออะไร?

ความสวยงามของไม้แท้ ในแบบที่ทนทานกว่า
ผิวหน้าเป็นไม้แท้ เดินแล้วรู้สึกถึงเนื้อไม้จริงๆ โครงสร้างข้างในที่เป็นหลายชั้นช่วยให้ไม้ไม่โก่งงอ จึงใช้ได้นานและเข้ากับการตกแต่งหลายแบบ

ห้องโชว์รูมตกแต่งด้วยพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ Woodden Thailand — ห้องโชว์รูมที่ตกแต่งด้วยพื้นไม้เอ็นจิเนียร์จาก Woodden Thailand

โครงสร้างพื้นไม้เอ็นจิเนียร์

ไม้ธรรมชาติชั้นบน (Veneer) — เช่น สัก โอ๊ค หรือวอลนัท
แกน Multi-ply / HDF — เรียงเสี้ยนไขว้ เพิ่มความแข็งแรง ลดการโก่ง
ชั้นบาลานซ์ — ช่วยให้พื้นเสถียร ไม่แอ่นตัว
การเคลือบผิว UV / AO — กันรอย ทำความสะอาดง่าย

ข้อดีของพื้นไม้เอ็นจิเนียร์

ได้ลายไม้แท้และสัมผัสธรรมชาติ
รับมือกับอากาศร้อนชื้นได้ดี ไม่โก่งบิดง่าย
ติดตั้งง่าย รวดเร็ว (Click-Lock หรือ Glue-down)
ดูแลง่าย แค่เช็ดธรรมดา
เดินแล้วสบาย ไม่ก้อง

ตัวอย่างพื้นไม้เอ็นจิเนียร์สีเข้มและสีอ่อน — ตัวอย่างการเปรียบเทียบพื้นไม้เอ็นจิเนียร์โทนเข้มและโทนอ่อน

ปัจจัยที่มีผลต่อราคา

ชนิดไม้หน้า (สัก โอ๊ค หรือวอลนัท)
ความหนาของ Veneer
โครงสร้างแกน Multi-ply หรือ HDF
การเคลือบผิวและการรับประกัน
ค่าบริการติดตั้ง

การดูแลพื้นไม้เอ็นจิเนียร์อย่างถูกวิธี

กวาดหรือดูดฝุ่นเป็นประจำ
เช็ดด้วยผ้าหมาด ไม่ปล่อยให้น้ำขัง
ใช้แผ่นรองขาเฟอร์นิเจอร์
ทาน้ำยาบำรุงพื้นทุก 1–2 ปี

ขั้นบันไดที่ปูด้วยพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ — งานติดตั้งบันไดที่ใช้ไม้เอ็นจิเนียร์เพื่อความสวยงามและทนทาน

เปรียบเทียบวัสดุปูพื้นแต่ละประเภท

คุณสมบัติ	ไม้เอ็นจิเนียร์	ไม้ชิ้นเดียว	ลามิเนต / SPC
เนื้อสัมผัส	ไม้แท้	ไม้แท้	พิมพ์ฟิล์ม
ความทนทานต่อความชื้น	สูง	ปานกลาง	สูง
ขัดทำสีซ้ำ	ทำได้ (ตามความหนาไม้หน้า)	ทำได้	ทำไม่ได้
การทนน้ำ	ปานกลาง	ต่ำ	สูง (แบบกันน้ำ)
ความรู้สึกเมื่อเดิน	นุ่มนวล เงียบ	มั่นคง หนักแน่น	แข็ง / เสียงดัง