ห้องรับประทานอาหารเพดานสูง ปูพื้นไม้จริงลายก้างปลา (Herringbone) เข้ากับโต๊ะไม้สัก
11 ธันวาคม 2568
พื้นไม้จริง คืออะไร? รู้จักประเภทไม้ ข้อดี ข้อควรระวัง และวิธีเลือกให้เหมาะกับบ้านคุณ
 

พื้นไม้จริง คืออะไร? รู้จักประเภทไม้ ข้อดี ข้อควรระวัง และวิธีเลือกให้เหมาะกับบ้านคุณ

พื้นไม้จริง หรือที่หลายคนเรียกว่า พื้นไม้แท้ (Solid Wood Flooring) ถือเป็นวัสดุปูพื้นที่ให้ทั้งความอบอุ่นและความหรูหราเหนือกาลเวลา
แตกต่างจากวัสดุปูพื้นประเภทอื่นอย่างชัดเจน แต่ในตลาดปัจจุบันมีตัวเลือกมากมายจนหลายคนลังเลว่าจะเลือกแบบไหนดี
รวมถึงยังสับสนระหว่าง พื้นไม้จริง, พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ และ พื้นไม้สังเคราะห์ ว่าต่างกันอย่างไร

บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกทุกแง่มุมของพื้นไม้จริง ตั้งแต่การทำความรู้จักประเภทไม้ที่นิยมใช้ ข้อดี–ข้อควรระวังที่ต้องรู้
ไปจนถึงแนวทางการเลือกให้เหมาะกับงบประมาณและสไตล์บ้านของคุณ

พื้นไม้จริง คืออะไร? ต่างจากพื้นไม้ประเภทอื่นยังไง

พื้นไม้จริง (Solid Wood Flooring) ตามความหมายตรงตัว คือวัสดุปูพื้นที่ผลิตจากไม้แท้ทั้งแผ่น
โดยนำไม้ท่อนมาเลื่อยและไสให้เป็นแผ่นตามขนาดที่ต้องการ ไม่มีการเจือวัสดุอื่นผสมอยู่ภายใน
จึงให้สัมผัสและลวดลายแบบไม้ธรรมชาติ 100%

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน ลองเทียบกับพื้นประเภทอื่นแบบสั้น ๆ ดังนี้:

  • พื้นไม้จริง (Solid Wood) – ผลิตจากไม้แท้ทั้งแผ่น มีความหนา แข็งแรง ทนทาน
    ให้สัมผัสแบบธรรมชาติอย่างแท้จริง และสามารถขัดผิวหน้าเพื่อตกแต่งใหม่ได้หากมีความหนามากพอ
  • พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ (Engineered Wood) – ผิวหน้า (Top Layer) เป็นไม้จริง ส่วนชั้นล่างเป็นไม้อัดคุณภาพสูงซ้อนกันหลายชั้น
    ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความคงตัว ลดการยืดหด เหมาะกับบ้านยุคใหม่ที่ต้องการไม้จริงแต่ต้องการความเสถียรมากขึ้น
  • พื้นลามิเนต (Laminate) – จัดอยู่ในกลุ่มพื้นไม้สังเคราะห์ ผิวหน้าเป็นฟิล์มลายไม้ที่พิมพ์บนแผ่นใยไม้อัดความหนาแน่นสูง (HDF)
    ไม่มีส่วนประกอบของไม้จริง จึงให้ลายไม้สวยในงบประมาณที่เข้าถึงง่ายกว่า

ประเภทของพื้นไม้จริงยอดนิยม

ในประเทศไทยมีไม้หลายชนิดที่นิยมนำมาทำพื้นไม้จริง แต่ละชนิดมีสีสัน ลวดลาย และคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป
การรู้จักลักษณะของไม้แต่ละแบบจะช่วยให้เลือกให้เหมาะกับบ้านของคุณได้ง่ายขึ้น

1. ไม้สัก (Teak Wood)

ไม้ที่คนไทยคุ้นเคยกันมายาวนาน จุดเด่นคือ ลายไม้สีทองน้ำตาล สวยงามและให้ความรู้สึกอบอุ่น
มีสารธรรมชาติในเนื้อไม้ เช่น “เทคโทควิโนน (Tectoquinone)” ช่วยต้านทานปลวกและความชื้นได้ดีกว่าไม้ทั่วไป
จึงเหมาะทั้งงานพื้นและงานบิวท์อินระดับพรีเมียม

2. ไม้มะค่า (Makha Wood)

โดดเด่นเรื่องความแข็งแรงทนทาน เนื้อไม้มีสีน้ำตาลอมส้มเข้ม ลายไม้ชัดเจน ดูหรูและหนักแน่น
เหมาะกับพื้นที่ที่ต้องรับน้ำหนักหรือมีการใช้งานหนัก เช่น โถงทางเดิน หรือพื้นที่ส่วนกลางของบ้าน
ข้อควรระวังคือเนื้อไม้ค่อนข้างหนัก การติดตั้งจึงต้องใช้ช่างที่เชี่ยวชาญและโครงสร้างพื้นต้องรองรับได้ดี

3. ไม้แดง (Padauk Wood)

ตามชื่อเลยครับ ไม้แดง มีโทนสีแดงเข้มอมน้ำตาลเป็นเอกลักษณ์ ให้บรรยากาศอบอุ่นและคลาสสิก
เนื้อไม้แข็ง คงทน เหมาะกับงานพื้นในพื้นที่ที่มีการใช้งานต่อเนื่อง
ข้อควรระวังคือหากโดนแสงแดดจัดเป็นเวลานาน สีอาจซีดหรือเปลี่ยนโทนได้ จึงควรมองเรื่องตำแหน่งแสงร่วมด้วย

4. ไม้โอ๊ค (Oak Wood)

ไม้ยอดนิยมจากฝั่งยุโรปและอเมริกา จุดเด่นคือโทนสีค่อนข้างสว่าง และมีลายไม้แบบ “เสี้ยน” ชัดเจนในสไตล์ยุโรป
มีทั้ง Red Oak และ White Oak ให้เลือก เหมาะกับบ้านสไตล์โมเดิร์น มินิมอล หรือคลาสสิกตะวันตก
เนื่องจากเป็นไม้เมืองหนาว จึงต้องผ่านการอบและเคลือบผิวกันความชื้นอย่างเหมาะสมก่อนนำมาใช้งานในสภาพอากาศร้อนชื้น

5. ไม้เมเปิ้ล (Maple Wood)

อีกหนึ่งไม้โทนสว่างที่ให้ความรู้สึกเรียบหรู ด้วยเนื้อไม้สีขาวครีมที่แทบไม่มีลายไม้ หรือมีลายก็น้อยมาก
เมื่อปูเป็นพื้นจะได้ฟีลที่สะอาดตา สบายตา เหมาะอย่างยิ่งกับบ้านสไตล์มินิมอล (Minimal) หรือสแกนดิเนเวียน (Scandinavian)

ข้อดีของพื้นไม้จริง

การเลือกใช้พื้นไม้แท้มีข้อดีหลายด้านที่วัสดุปูพื้นประเภทอื่นให้ไม่ได้ เช่น:

  • สัมผัสไม้ธรรมชาติแท้ ๆ: ให้ความรู้สึกอบอุ่น มีมิติ และมี “ชีวิต” มากกว่าวัสดุสังเคราะห์
    เหมาะสำหรับคนที่รักบรรยากาศแบบบ้านไม้จริง
  • อายุการใช้งานยาวนาน: พื้นไม้จริงใช้งานได้ประมาณ 10–30 ปี หรือมากกว่านั้น
    ขึ้นอยู่กับชนิดของไม้และการดูแลรักษา หากมีความหนามากพอ สามารถขัดผิวหน้าและทำสีเคลือบใหม่ (Refinishing) ได้
  • เพิ่มมูลค่าให้บ้าน: พื้นไม้แท้ถือเป็นการลงทุนที่ช่วยเพิ่มภาพลักษณ์และมูลค่าโดยรวมให้กับบ้าน
    เหมาะสำหรับบ้านหรือโครงการระดับพรีเมียม

ข้อควรระวังในการใช้พื้นไม้จริง

แม้พื้นไม้จริงจะมีเสน่ห์และข้อดีมากมาย แต่ก็มีข้อจำกัดที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจติดตั้ง ดังนี้

  • ความชื้นและการยืดหด: ไม้จริงเป็นวัสดุธรรมชาติที่ “หายใจได้” จึงมีการหดและขยายตัวตามสภาพอากาศและความชื้น
    จำเป็นต้องควบคุมความชื้นในห้องให้เหมาะสม
  • การติดตั้ง: ต้องใช้ช่างติดตั้งที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง
    เพื่อเว้นรอยต่อเผื่อการขยายตัวของไม้ (Expansion Gap) และเตรียมพื้นรองรับอย่างถูกวิธี
  • ราคาสูง: เมื่อเทียบกับพื้นไม้สังเคราะห์หรือลามิเนต พื้นไม้จริงมีราคาสูงกว่าทั้งค่าวัสดุและค่าติดตั้ง
  • การบำรุงรักษา: ต้องมีการดูแลรักษาและลงน้ำยาเคลือบผิวตามระยะ
    เพื่อรักษาความสวยงามของเนื้อไม้และยืดอายุการใช้งาน

วิธีเลือกพื้นไม้จริงให้เหมาะกับบ้าน

1. เลือกชนิดไม้ให้เข้ากับสไตล์บ้าน

สไตล์การแต่งบ้านเป็นตัวช่วยสำคัญในการเลือกทั้งโทนสีและลายไม้ เช่น:

  • บ้านสไตล์ Modern, Minimal, Scandinavian: เหมาะกับไม้โทนสว่าง ลายไม่จัด เช่น ไม้โอ๊ค, ไม้เมเปิ้ล
  • บ้านสไตล์ Classic, Luxury, Modern Thai: เหมาะกับไม้โทนเข้ม ลายไม้ชัด เช่น ไม้สัก, ไม้มะค่า, ไม้แดง

2. พิจารณางบประมาณและขนาดพื้นที่

ราคาพื้นไม้จริงแตกต่างกันตามชนิดของไม้และความหนา เช่น พื้นไม้สักมักมีราคาสูงกว่าไม้โอ๊คหรือไม้แดง
แนะนำให้ประเมินราคารวม ทั้งค่าวัสดุและค่าติดตั้ง “ต่อตารางเมตร” เพื่อวางแผนงบประมาณให้ชัดเจน
ตัวอย่างเช่น พื้นไม้สักอาจอยู่ที่ประมาณ 2,000–4,000 บาท/ตร.ม. ขึ้นอยู่กับเกรดและความหนา

3. เลือกช่างติดตั้งที่มีประสบการณ์

การติดตั้งเป็นปัจจัยสำคัญไม่แพ้วัสดุ ช่างที่ไม่มีประสบการณ์อาจไม่ได้เว้นช่องว่างเผื่อการขยายตัวของไม้
หรือไม่ได้เตรียมระบบระบายอากาศใต้พื้นอย่างเหมาะสม ทำให้เกิดปัญหาพื้นบวม โก่ง หรือยกตัวในอนาคต
แนะนำให้เลือกทีมติดตั้งที่มีผลงานด้านพื้นไม้จริงโดยเฉพาะ

พื้นไม้จริง vs พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ – แบบไหนคุ้มกว่า?

หนึ่งในคำถามยอดฮิตของคนที่กำลังเลือกพื้นไม้คือ
“ระหว่างพื้นไม้จริงกับพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ แบบไหนคุ้มกว่า?”
เพื่อให้เห็นภาพง่ายขึ้น เราสรุปเปรียบเทียบคุณสมบัติหลัก ๆ ไว้ในตารางด้านล่างนี้ครับ

รายการเปรียบเทียบ พื้นไม้จริง (Solid Wood) พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ (Engineered Wood)
วัสดุ ไม้แท้ทั้งแผ่น ชั้นบนเป็นไม้แท้ + ชั้นล่างเป็นไม้อัดคุณภาพสูง
ความคงตัว อาจมีการหด–ขยายตัวตามสภาพอากาศ คงตัวสูง ทนต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิและความชื้นได้ดีกว่า
อายุการใช้งาน ประมาณ 20–30 ปี (หรือนานกว่า หากดูแลดี) ประมาณ 10–20 ปี
การขัดผิวหน้า (Refinish) ขัดได้หลายครั้ง (ขึ้นอยู่กับความหนาไม้) ขัดได้ 1–2 ครั้ง (ขึ้นอยู่กับความหนาผิวหน้า)
ความสวยงาม ลายไม้ธรรมชาติแท้ทุกชั้น ให้ลายไม้ใกล้เคียงไม้แท้มาก เพราะชั้นบนเป็นไม้จริง
ราคา สูงกว่า คุ้มค่าและเข้าถึงได้ง่ายกว่า

สรุป – พื้นไม้จริง ดีไหม เหมาะกับใครบ้าง

หากคุณต้องการวัสดุปูพื้นที่ให้บรรยากาศ อบอุ่น หรูหรา และเป็นไม้แท้ธรรมชาติ
พื้นไม้จริงคือคำตอบที่เหมาะอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเจ้าของบ้านที่มองหาการลงทุนระยะยาว
และต้องการเพิ่มมูลค่าให้กับตัวบ้านหรือโครงการ

ข้อดีหลักของพื้นไม้จริงคือ ความทนทาน (สามารถขัดและทำสีใหม่ได้หากมีความหนาเพียงพอ)
ความสวยงาม (ลายไม้ธรรมชาติไม่ซ้ำกันในแต่ละแผ่น) และภาพลักษณ์ที่ช่วยยกระดับบ้านให้ดูพรีเมียม
ส่วนข้อควรระวังคือเรื่องความชื้น การติดตั้ง และงบประมาณ ซึ่งหากมีการวางแผนและเลือกช่างที่เชี่ยวชาญ
พื้นไม้จริงก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ “คุ้มค่าในระยะยาว” อย่างแท้จริง

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

พื้นไม้จริงทนปลวกไหม?
ขึ้นอยู่กับชนิดของไม้ครับ ไม้บางชนิด เช่น ไม้สัก จะมีสารธรรมชาติช่วยต้านทานปลวกได้ในระดับหนึ่ง
แต่ไม้บางประเภท เช่น ไม้โอ๊คหรือไม้เมเปิ้ล อาจไม่ทนปลวกเท่า จึงควรอัดน้ำยากันปลวกในขั้นตอนการผลิต
และติดตั้งด้วยระบบที่ได้มาตรฐาน
บ้านที่มีความชื้นสูงเหมาะกับพื้นไม้จริงหรือไม่?
ไม่ค่อยแนะนำครับ พื้นไม้จริงไม่เหมาะกับพื้นที่ที่มีความชื้นสูงตลอดเวลา เช่น ห้องน้ำ
หรือพื้นที่ชั้นล่างที่ติดพื้นดินโดยไม่มีการระบายอากาศที่ดี เพราะมีโอกาสทำให้ไม้บวม โก่ง หรือยกตัวได้
หากต้องการลายไม้ในพื้นที่ชื้น ควรพิจารณาเป็นพื้นไม้เอ็นจิเนียร์หรือกระเบื้องลายไม้แทน
ดูแลพื้นไม้จริงอย่างไรให้สวยนาน?
การดูแลพื้นไม้จริงทำได้ไม่ยาก เพียง:

  • ใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาดเช็ดทำความสะอาด ไม่ปล่อยให้น้ำขัง
  • หลีกเลี่ยงการลากของแข็งหรือเฟอร์นิเจอร์โดยตรงบนพื้น
  • ใช้น้ำยาทำความสะอาดสำหรับพื้นไม้โดยเฉพาะ (ไม่ใช้น้ำยาที่มีฤทธิ์เป็นกรด/ด่าง)
  • ลงน้ำยาเคลือบผิวหรือขัดทำสีใหม่ (Refinish) ทุก ๆ 5–10 ปี ตามการใช้งาน
ควรเลือกพื้นไม้จริงหรือพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ดี?
หากต้องการ “ไม้แท้เต็มแผ่น” และมองการลงทุนระยะยาว พร้อมรับมือกับการดูแลเรื่องความชื้นได้
พื้นไม้จริงเหมาะเป็นอย่างยิ่ง
แต่หากต้องการความคงตัวสูง ใช้งานในพื้นที่ที่มีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิและความชื้นบ่อย
และอยากควบคุมงบประมาณ พื้นไม้เอ็นจิเนียร์จะตอบโจทย์มากกว่า

สรุป

พื้นไม้จริงยังคงเป็นหนึ่งในวัสดุปูพื้นที่ได้รับความนิยมสำหรับบ้านและโครงการที่ต้องการความพรีเมียม
ด้วยจุดเด่นด้านความสวยงามของลายไม้ธรรมชาติ ความทนทาน และศักยภาพในการเพิ่มมูลค่าให้กับบ้าน
หากคุณเลือกชนิดไม้ให้เหมาะกับสไตล์บ้าน วางแผนงบประมาณให้ชัดเจน และใช้ทีมช่างติดตั้งที่มีประสบการณ์
พื้นไม้จริงจะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาวอย่างแน่นอน

เกี่ยวกับผู้เขียน

ทีมงาน WoodDen Thailand ผู้เชี่ยวชาญด้านพื้นไม้จริงและพื้นไม้เอ็นจิเนียร์
มากกว่า 10 ปีในการคัดสรรและติดตั้งพื้นไม้สำหรับบ้านและโครงการทั่วประเทศ

แหล่งอ้างอิง

ข้อสงวนสิทธิ์ (Disclaimer)

บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับวัสดุปูพื้นประเภทไม้จริง
ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้คำปรึกษาเฉพาะโครงการ
หากคุณต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมสำหรับบ้านหรือโครงการของคุณ
กรุณาติดต่อทีมผู้เชี่ยวชาญของ WoodDen Thailand

Share

พื้นไม้จริง คืออะไร? รู้จักประเภทไม้ ข้อดี ข้อควรระวัง และวิธีเลือกให้เหมาะกับบ้านคุณ

Share

 

Other Blogs & News

 
ลายไม้สักพม่า ดีไหม? ภาพระยะใกล้ของพื้นไม้สักสีน้ำตาลทอง ลายไม้สวยงามและเสี้ยนไม้ตรง เห็นรอยต่อไม้ชัดเจน

ไม้สักพม่า ดีไหม? เจาะลึกข้อดี ข้อควรระวัง และวิธีเลือกใช้ให้คุ้มค่า

ไม้สักพม่า ดีไหม? เจาะลึกข้อดี ข้อควรระวัง และวิธีเลือก […]

explore
 
พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ดีไหม ใช้ตกแต่งห้องสไตล์มินิมอล

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ อัพเดทล่าสุด 2025

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ หลายคนมักสงส […]

explore
 
พื้นไม้เอ็นจิเนียร์สไตล์มินิมอลในห้องนั่งเล่น

Minimal Mood & Tone ไอเดียตกแต่งบ้านด้วยพื้นไม้เอ็นจิเนียร์สไตล์มินิมอล

Minimal Mood & Tone: ไอเดียตกแต่งบ้านด้วยพื้นไม้เอ […]

explore